นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสาร สอบถามอัยการสูงสุดว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องภายใน 15 วันกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกสร (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2)
ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องสอบถามเพราะมีคนไปร้องมานานแล้ว และยังไม่ทำความเห็นส่งมาเสียที เพราะถ้าไม่ส่งเอกชนก็จะฟ้องร้องเองคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
วิจัยพบ มนุษย์สูบน้ำบาดาลมากเกินไป จน “แกนโลกเปลี่ยน”
สินค้าเกษตรอ่วม ผลไม้สด-แช่เย็นแช่แข็ง ฉุดส่งออก ติดลบต่อเนื่องเดือนที่ 8
ส่วนศาลมีทางเลือกที่จะไม่รับคำร้องหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ เป็นไปได้ เมื่อถามย้ำว่าเป็นเพราะศาลไม่มีทางเลือกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่ มี
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากอัยการสูงสุดไม่รับคำร้อง ผู้ร้องสามารถใช้ช่องทางตามมาตรา 49 ยื่นตรงให้รัฐธรรมนูญได้หรือไม่นายวิษณุ กล่าวว่า ศาลจะรับก็ได้ หรือไม่รับก็ได้
ส่วนหากศาลรับคำร้องจะส่งผลต่อการโหวตเลือกนายกฯหรือไม่นั้น ไม่น่า เพราะเป็นเรื่องของพรรคก้าวไกลไม่ใช่ตัวบุคคล และไม่มีเรื่องของการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่จะส่งผลการเมืองในเรื่องของการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 112 ก็แล้วแต่ว่าใครจะมีความรู้สึกอย่างไร
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า โทษร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อย่าไปถามล่วงหน้า เอาให้จบเรื่องเสียก่อน
ส่วนคำร้องให้เขียนว่าแค่ยกเลิกการกระทำ ถือเป็นสารตั้งต้น ให้คนมาร้องคดีอาญา หรือคดียุบพรรค กรณีหากศาลตัดสินว่าผิดใช่หรือไม่ นายวิษณุ พยักหน้าและตอบว่า ใช่ และอย่าให้ตนไปแนะนำเลย
และเมื่อถามว่า คดีดังกล่าวเมื่อเทียบกับคดีหุ้นไอทีวี มีความรุนแรงกว่าหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้